[ไขข้อสงสัย] มอเตอร์ไฟฟ้ามีกี่ชนิด อะไรบ้าง! มือใหม่ควรรู้

2.1 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ(AC)

คือ มอเตอร์ที่ป้อนไฟฟ้ากระแสสลับเข้าไปเพื่อให้ได้พลังงานกลออกมาสำหรับการขับโหลดชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกระแสตรงแต่มีจำนวนเฟสต่างกันซึ่งนิยมนำไปใช้ได้ทุกประเภทตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยแบ่งออกเป็น 3 ชนิดดังนี้

1. มอเตอร์ไฟฟ้าแบบกระแสสลับ 1 เฟส ซึ่งใช้แรงดันมอเตอร์ไฟฟ้า 220v มีสายไฟฟ้าเข้า 2 สายซึ่งนำไปใช้ในบ้านเรือนต่าง ๆ
2. มอเตอร์ไฟฟ้าแบบกระแสสลับชนิด 2 เฟส
3. มอเตอร์ไฟฟ้าแบบกระแสสลับชนิด 3 เฟส ซึ่งใช้แรงดันไฟมาก โดยส่วนมากมักจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

2.2 มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (DC)

คือ มอเตอร์ที่ป้อนไฟฟ้ากระแสตรงที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกลที่นิยมนำไปใช้ในโรงงานทอผ้า โรงงานเส้นใยจำพวกโพลีเอสเตอร์ หรือโรงงานถลุงโลหะ เป็นต้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้

1. มอเตอร์แบบอนุกรม (Series Motor)
2. มอเตอร์แบบอนุขนาน (Sun Motor)
3. มอเตอร์แบบผสม (Compound Motor)

• ประเภทของมอเตอร์ เนื่องจากมีหลายชนิดให้เลือก ซึ่งการใช้งานแตกต่างกันทั้งกระแสไฟฟ้า หรือขนาดที่ไม่เท่ากัน จึงควรรู้มอเตอร์ไฟฟ้าเบื้องต้นเป็นลำดับแรกเพื่อจะทราบว่างานของคุณนั้นเหมาะกับมอเตอร์แบบใด 
  
• ข้อดี-ข้อเสีย จะทำให้ทราบถึงหลักการทำงานและทำให้ทราบข้อควรระวังอีกด้วย ทำให้ทราบว่าเหมาะกับการใช้งานแบบใดจึงทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  
• แรงดันไฟฟ้า ก็ต้องใช้ให้เหมาะสมกับมอเตอร์ มอเตอร์ไฟฟ้า 220v เหมาะกับบ้านเรือน 380v เหมาะกับอุตสาหกรรม
  
• ความเร็วรอบ ความเร็วรอบและแรงบิดถือที่แตกต่างกัน หากเลือกพิกัดมอเตอร์ความเร็วไม่ถูกต้องจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน  ดังนั้น จึงควรพิจารณาถึงคุณสมบัติมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับการนำไปใช้งานเพื่อให้ได้มอเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะสม  และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ การเลือกร้านจำหน่ายมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีความน่าเชื่อถือและคุณภาพดี

• สินค้า (Product) – มีสินค้าตัวอย่างให้เลือกดูทั้งผ่านหน้าเว็บไซต์และร้านค้า โดยสามารถติดต่อสอบถามเพื่อขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา
  
• หลากหลาย (various) สินค้ามีหลายรุ่นให้เลือกใช้บริการ โดยมีการนำเข้ามาจากบริษัทชั้นนำ อาทิเช่น มิตซูบิชิ, Muller, โตชิบา, มอเตอร์ซีเมนต์, มอเตอร์เอบีบี, มอเตอร์เมอรารี่  ซึ่งได้ทั้งมาตรฐานและมีการรับประกันสินค้าทำให้ลูกค้าหมดความกังวล
  
• คุณภาพ (Quality) ด้วยการนำเข้าจากบริษัทชั้นนำและมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าทุกชิ้นเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีสุดแก่ลูกค้า
  
• ราคา (Price) มีการจัดเรทราคาสินค้าตั้งแต่ราคาต่ำ-สูง เพื่อจัดสินค้าในงบของผู้ใช้งานได้อย่างเหมาะสม ทำให้ไร้ปัญหาเมื่อมีงบจำกัด
• บริการ (Service) ให้คำปรึกษาทั้งก่อน – หลังการขายจากทีมช่างมืออาชีพ โดยหากซื้อสินค้าไป หากเกิดปัญหาก็จะมีบริการเข้าซ่อมทันทีและยังติดตามผลการใช้งาน